ปัจจัยสำคัญในการปลูกบัว

ปัจจัยสำคัญในการปลูกบัว

 

คนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงบัวและมีคำถามว่าทำไม ปลูกบัว แล้วไม่งามบ้าง ตายบ้าง แท้จริงแล้วการปลูกบัวเรื่องบัวนั้นเป็นเรื่องง่ายแต่ต้องเข้าใจธรรมชาติของพันธุ์นั้น เพราะการใส่ดินเเช่น้ำอย่างเดียวไม่สามารถทำให้บัวงามได้

 

บัวเป็นพันธุ์ไม้ที่มีการกระจายพันธุ์ในเขตร้อนและเขตอบอุ่น ด้วยสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมของเมืองไทย จึงสามารถปลูกเลี้ยงและให้ดอกได้อย่างดี แม้บัวเป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย แต่ถ้าปลูกให้ออกดอกอย่างสวยงาม เเละเต็มฟอร์มพร้อมผู้เลี้ยงต้องดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาคุณ ให้ปุ๋ยสม่ำเสมอ คอยเก็บใบแก่หรือดอกเหี่ยวทิ้ง และเติมหรือเปลี่ยนน้ำในอ่างให้ใสสะอาดอยู่เสมอ

ปัจจัยสำคัญในการปลูกบัว

1.ภาชนะปลูกปัจจุบันบัวเป็นไม้น้ำที่นิยมปลูกเลี้ยงกันมากขึ้นซึ่งมีทั้งปลูกประดับในสระน้ำและในภาชนะสำหรับการปลูกบัวในภาชนะมีข้อดีคือดูแลง่ายกว่าปลุกในสระน้ำเพราะสามารถสังเกตการเจริญเติบโตได้อย่างใกล้ชิดเหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มเลี้ยงและผู้ที่มีพื้นที่ปลูกน้อย

ภาชนะที่นิยมใช้มีหลายอย่าง เช่น อ่างดินเผา อ่างเคลือบ อ่างพลาสติก อ่างปูนหรือวงปูนซีเมนต์ ซึ่งมีราคาแตกต่างกันหรืออาจจะแปลงวัสดุเหลือใช้รอบบ้านที่มีความลึกพอจะค้างน้ำได้มาใช้แทนเช่นอ่างอาบน้ำเก่าหรือทางซีเมนต์ขนาดต่างๆกันสิ่งสำคัญคือต้องเลือกขนาดให้เหมาะกับพันธุ์บัวและขนาดพื้นที่ บาง พันธุ์ชอบน้ำลึก เพื่อสงกานในแนวดิงได้ดีก็ควรเลือกภาชนะที่มีความลึกพอกับการเจริญเติบโต โดยทั่วไปควรมีความกว้างของปากภาชนะตั้งแต่ 50 เซนติเมตรลึก 30 ถึง 80 เซนติเมตรหากปลูกเลี้ยงในภาชนะต้องมีขนาดที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของบัวและชนิดแต่ละพันธุ์สำหรับบัวที่มีเหง้าเจริญเติบโตแนวนอน ควรเลือกภาชนะที่มีปากว้างแต่ไม่ลึกมาก ส่วนตัวที่มีเหง้าเจริญเติบโตแนวตั้ง ภาชนะที่ใช้ไม่ควรกว้างนักแต่ต้องลึกหรือสูงกว่าบัวกลุ่มแรก บางพันธุ์เหมาะปลูกในภาชนะขนาดใหญ่หรือพื้นที่กว้างกว้างเช่นบัววิคตอเรียบัวอยากออสเตรียหรือบัวสายขนาดใหญ่หลายชนิดเพื่อให้ใบแผ่ออกได้เต็มที่

2.ดินเหนียว เป็นวัสดุที่เหมาะกับการปลูกบัวเพราะอนุภาคของดินเหนียวช่วยยึดเกาะรากบัวได้ดีและยังยึดเหนี่ยวธาตุอาหารในดินไม่ให้ละลายไปกับน้ำรางปลูกบัวระยะแรกระบบรากยังไม่แข็งแรงนัก ดินที่ปลูกจึงต้องอ่อนนุ่มเพื่อให้รากเติบโตและชอนไชหาอาหารได้ง่าย

ดินปลูกที่ดีต้องมีค่า pH ไม่เป็นกรดหรือด่างเกินไป ไม่ควรใช้ดินร่วนหรือดินผสมกับมะพร้าวและแกลบต่างๆที่ใช้กับไม้ประดับทั่วไป เพราะวัสดุปลูกเหล่านั้นจะลอยสู่ผิวน้ำและไม่สามารถยึดเกาะรากให้อยู่กับดินได้ บางครั้งอาจใช้ดินร่วนรองก้นภาชนะและใช้ดินเหนียวปิดทับอีกชั้น ซึ่งเหมาะกับบัวฝรั่งหรือวัวลูกผสมข้ามสกุลย่อย เหง้าจะ อวบ ใบใหญ่ ต้นสนบูรณ์ และออกดอกเร็วกว่าปลุกด้วยดินเหนียวเพราะมีธาตุอาหารมาก แต่สามารถเติบโตได้เพียง 4-6 เดือนเท่านั้นเพราะอินทรีย์วัตถุที่อยู่ในดินเช่นใบก้ามปู กาบมะพร้าว ขุยมะพร้าวจะเน่าและหมักอยู่ด้านล่างก่อให้เกิดความร้อน ดินจะเหลว เเละกลายเป็นเลนสีดำส่งกลิ่นเหม็น ทำให้บัวทรุดและตายได้ในที่สุดต้องเปลี่ยนดินใหม่ควรเลือกใช้ดินเหนียวดินร่วนปนดินเหนียวหรือดินเหนียวปนทรายดีกว่า

  1. น้ำ ควรเป็นน้ำสะอาด เช่น น้ำประปา ซึ่งมีค่า pH เป็นกลางไม่มีกลิ่นเหม็น สิ่งสำคัญคือ ระดับน้ำต้องเหมาะกับบัวแต่ละประเภท ปกติแล้วบัวชอบน้ำลึก 20-40 เซนติเมตร ถ้าเป็นบัวขนาดเล็กเเต่ปลูกในระดับน้ำลึกเกินไป บัวจะเติบโตไม่ดีเท่าที่ควร ก้านใบลีบยืดยาวเบียดกันเป็นกลุ่มและไม่เเข็งเเรง ถ้าเป็นบัวขนาดใหญ่ เช่น บัววิกตอเรียหรือบัวยักษ์ออสเตรเลีย จะเติบโตได้ดีที่ระดับน้ำลึกประมาณ 1 เมตร ส่วนบัวสายบานกลางคืน บางชนิดจะสามารถเติบโตได้ดีในระดับน้ำลึกกว่า 2 เมตร

4 แสงเเดด เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการปลูกบัวให้งอกงาม ธรรมชาติของบัวต้องการแสงแดดโดยตรงอย่างน้อยวันละ 5-6 ชั่วโมง จะช่วยให้บัวสังเคราะห์แสงและนำธาตุอาหารในดินมาใช้ในการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ มีใบเเผ่กระจายเเละออกดอกสมบูรณ์

หากปลูกในที่ร่มมีต้นไม้ใหญ่บดบังแสง โดยเฉพาะในฤดูฝนซึ่งมีแสงแดดน้อยกว่าฤดูกาลอื่น ก้านใบบัวจะยืด เเผ่นใบบางเเละเล็ก ต้นอ่อนแอ โตช้า และไม่ออกดอก ควรเปลี่ยนตำแหน่งให้ต้นบัวได้รับเเสงแดดเต็มที่ทั้งวัน หรือใช้หลอดไฟที่มีความเข้มของแสงสูงเปิดส่องเพิ่ม เพื่อให้บัวสามารถสังเคราะห์แสงได้ยาวนานขึ้น

  1. ปุ๋ย การบำรุงบัวให้งอกงามนั้นสามารถใช้ได้ทั้งปุ๋ยเคมีเเละปุ๋ยอินทรีย์ สำหรับปุ๋ยอินทรีย์นิยมใช้ปุ๋ยคอกอัดเม็ด หรือกระดูกสัตว์ปนรองก้นกระถาง ส่วนปุ๋ยเคมีนั้นมีปริมาณธาตุอาหารตาอหน่วยน้ำหนักของปุ๋ยสูงเเละให้ธาตุอาหารเเก่พืชได้รวดเร็ว ที่จำหน่ายทั่วไปมีทั้ฝในรูปปุ๋ยเม็ดเเละปุ๋ยเกล็ด สำหรับบัวนิยมใช้ปุ๋ยเม็ดโดยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ เมื่อฝังลงดินใช้นิ้วหรือไม้แทงลงดินห่างจากโคนต้นให้เป็นช่องเเละฝังห่อปุ๋ยลงไป ปัจจุบันมีปุ๋ยอัดเม็ดสำหรับไม้น้ำซึ่งใช้สะดวกขึ้น เพราะสามารถฝังลงในดินได้เลย

สำหรับบัวที่ปลูกในภาชนะซึ่งมีธาตุอาหารจำกัด หลังปลูกประมาณ 1 เดือน รากจะเริ่มเติบโตมากขึ้น ควรให้ปุ๋ยสูตรตัวหน้าสูงเพื่อบำรุงต้น เช่น สูตร 16-8-8 หรือสูตรเสมอ 16-16-16 เป็นต้น หลังปลูก 2-3 เดือน ต้นจะเเข็งแรงขึ้น จึงเริ่มให้ปุ๋ยสูตรตัวกลางสูง เพื่อส่งเสริมการสร้างตาดอกและบำรุงดอกให้สมบูรณ์ เช่น ปุ๋ยบัวโดยเฉพาะ

โพสต์เมื่อ :
2562-12-18
 7353
ผู้เข้าชม

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์